GULF–CMWTE เสริมศักภาพ บ้านทุ่งยาว ดอยสะเก็ดฯ ลดคาร์บอนฯลดไฟป่าสร้างรายได้ชุมชน “ผลิตถ่านไบโอชาร์”
83 อ่าน
GULF–CMWTE เสริมศักภาพ บ้านทุ่งยาว ดอยสะเก็ดฯ ลดคาร์บอนฯลดไฟป่าสร้างรายได้ชุมชน “ผลิตถ่านไบโอชาร์”
กลุ่มบริษัทกัลฟ์ (GULF) และ บริษัทเชียงใหม่ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี จำกัด (CMWTE) นำโดย ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ GULF (วิทยากรส่งเสริมโครงการฯ) ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ป่าต้นน้ำห้วยต้นยาง บ้านทุ่งยาว ม.8 ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
วันที่ 7-8 ตุลาคม 2568 นำโดย นายสมพงค์ เจริญศิริ กำนันตำบลป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “คืนสมดุลให้ป่าชุมชนด้วยจุลินทรีย์” ซึ่งส่งเสริมและสนับสนุนจาก GULF–CMWTE ก้าวสู่ปีที่ 3 โดยมีเป้าหมายในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำห้วยต้นยาง ซึ่งมีพื้นที่ 2,307 ไร่ โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินงานก้าวหน้าหลายด้าน ได้แก่ การอบรมความรู้ด้านนวัตกรรมจุลินทรีย์ฐานชีวภาพ การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ชุมชน การผลิตสินค้าจากจุลินทรีย์ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และการเกษตร เพื่อเสริมสร้างรายได้แก่ชุมชน อาทิ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (อาหารพืช) จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย และการเกษตรต่างๆ การอบรมและศึกษาดูงาน การฟื้นฟูป่า ด้วย “ไมคอร์ไรซ่า” การปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว การทำฝายชะลอน้ำ และแปลงทดลองป่าไม้เศรษฐกิจด้วยเห็ดไมคอร์ไรซ่า ส่งเสริมครัวเรือนพึ่งตนเอง และปลูกป่าครัวเรือน ฯลฯ
ปีที่ผ่านมา ได้ส่งเสริมการรวมกลุ่มจดทะเบียนเป็น “วิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ป่าต้นน้ำห้วยต้นยาง” กับ สำนักงานเกษตรอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่อยกระดับการจัดการสร้างกลไกในการบริหารจัดการ ที่มีประสิทธิภาพและขับเคลื่อนงานอนุรักษ์ป่าชุมชนอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable) โดยกำหนดยุทธศาสตร์เชื่อมโยง 3 องค์ประกอบหลัก คือ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมควบคู่กัน รวมถึงการใช้ทรัพยากรป่าไม้ในท้องถิ่น เช่น ใบไม้ เศษไม้ ในป่าซึ่งเป็นเชื้อเพลิงไฟป่า และการย่อยสลายตามธรรมชาติ ไฟป่าก่อเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ และอื่นๆ ซึ่งเป็นมลภาวะในอากาศ (ภาวะโลกร้อน) เศษวัสดุทางการเกษตรและครัวเรือน นำกลับมาใช้ประโยชน์ในการลดรายจ่าย สร้างผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ หรือมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ การจัดสรรเพื่อเชื่อมโยงพัฒนาสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ GULF–CMWTE จับมือกับชุมชนบ้านทุ่งยาวฯ และวิสาหกิจชุมชนฯ นำองค์ความรู้ “การผลิตถ่านไบโอชาร์” มาอบรมสร้างความรู้และใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพรักษาสิ่งแวดล้อมป่าชุมชน ช่วยกักเก็บคาร์บอนฯ ป้องกันและลดปริมาณเชื้อเพลิงไฟป่า เป็นการสร้างรายได้ชุมชนอีกช่องทางหนึ่ง โดยได้รับความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ คือ นายธนกร นันติ ประธานวิสาหกิจชุมชนไม้ดอกเมืองพร้าว การศึกษาเกษตรอัจฉริยะ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้มีประสบการณ์ความสำเร็จ ในโครงการต้นกล้าชุมชน การใช้การผลิตถ่านไบโอชาร์ ผลงานลดพื้นที่ การเผภาคเกษตรกว่า 600 ไร่ ลดคาร์บอนฯภาคเกษตรมากถึง 9,000 กิโลกรัมคาร์บอนต่อเดือน เป็นวิทยากรด้านการผลิตถ่านไบโอชาร์ แก่ชุมชนจำนวนมาก เป็นต้น ได้มาร่วมจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ด้านกระบวนการใช้ เตาไบโอชาร์ ผลิตถ่านไบโอชาร์ แก่ชุมชนในพื้นที่บ้านทุ่งยาวฯ และหมู่ๆใกล้เคียง เข้าร่วมกว่า 50 คน และได้สาธิตกระบวนการผลิตจริง โดยผู้เข้าร่วมอบรม ผลการผลิตได้ถ่านไบโอชาร์คุณภาพเยี่ยม อบแห้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งชุมชนสามารถทำได้ และจะขยายผลต่อไป
ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน ผช.ผอ.ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ GULF กล่าวว่า การส่งเสริมนวัตกรรมถ่านไบโอชาร์แก่ชุมชน ว่าถ่านไบโอชาร์ “ทำหนึ่งได้สาม” ถ่านไบโอชาร์ (Biochar) หรือ ถ่านชีวภาพ เป็นมากกว่าถ่านธรรมดา จากวัสดุชีวมวลจากป่าชุมชน ของเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น กิ่งไม้ ใบไม้ ฟางข้าว หรือซังข้าวโพด ผ่านกระบวนการเผาแบบจำกัดออกซิเจน (Pyrolysis) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สร้างคาร์บอนฯแบบเสถียรที่มีรูพรุนสูง นวัตกรรมนี้มีหลายรูปแบบ ถือเป็นว่าเป็นวิธีการที่ดีมาก สามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างรอบด้าน ทั้งในมิติของการอนุรักษ์ป่าไม้ รักษาสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูดินทางการเกษตร การลดคาร์บอน อนุรักษ์ป่า ลดมลภาวะ การผลิตและใช้ไบโอชาร์ มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะการกักเก็บคาร์บอนในดินระยะยาว (Carbon Sequestration) ไบโอชาร์เป็นถ่านที่มีคาร์บอนสูง และมีโครงสร้างที่เสถียรมาก เมื่อนำไปใส่ในดินจะทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน ได้นานหลายร้อยถึงหลายพันปี
ซึ่งช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ที่จะถูกปล่อยกลับสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการลดโลกร้อน และชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับกิจกรรมลดไฟป่าของชุมชนด้วย ลดการเผาในที่โล่งและไฟป่า การนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและเศษกิ่งไม้ ใบไม้ในพื้นที่ป่าหรือไร่นามาผลิตเป็นไบโอชาร์ เป็นการจัดการของเสียอินทรีย์วัตถุที่สร้างสรรค์ ช่วยลดปริมาณเชื้อเพลิง ในธรรมชาติที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ยังช่วยลดมลพิษฝุ่นควัน PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมโดยรวม ช่วยปรับปรุงคุณภาพดินให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น ไบโอชาร์ สามารถนำไปแช่จุลินทรีย์ เป็น “ถ่านจุลินทรีย์” สารปรับปรุงดินเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรที่ยั่งยืน เพิ่มการอุ้มน้ำ ไบโอชาร์ มีรูพรุนสูงมาก (High Porosity) ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ ช่วยให้ดินสามารถ เก็บน้ำและความชื้น ได้ยาวนานขึ้น ทำให้พืชทนทานต่อภาวะแล้ง เป็นบ้านของจุลินทรีย์
โครงสร้างรูพรุนเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ สำหรับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน ซึ่งช่วยเพิ่มกิจกรรมทางชีวภาพของดิน กักเก็บและปลดปล่อยสารอาหาร ช่วยกักเก็บสารอาหาร และลดการชะล้างของปุ๋ย (ลดการสูญเสียไนโตรเจนและฟอสฟอรัส) พร้อมทั้งช่วย ลดความเป็นกรดของดิน ทำให้พืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและเพิ่มผลผลิต การผลิตถ่านไบโอชาร์เป็นเชื้อเพลิง ปรับปรุงดิน จะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ จากการเปลี่ยนของเสียที่เหลือใช้ เพิ่มมูลค่าสูง (Waste-to-Wealth) ตามแนวทาง เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในชุมชน ทำให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น และเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าชุมชน และช่วยลดโลกร้อน ด้วยครับ ดร.กฤษณ์ กล่าว
นายสมพงค์ เจริญศิริ กำนันตำบลป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ประธานวิสาหกิจชุมชน อนุรักษ์ป่าต้นน้ำห้วยต้นยาง กล่าวว่า ชุมชนร่วมจัดโครงการ คืนสมดุลให้ป่าชุมชนด้วยจุลินทรีย์ กับGULF–CMWTE ก้าวสู่ปีที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลงและเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเป็นอย่างมาก ทั้งยุทธศาสตร์การอนุรักษ์ป่าชุมชน เพิ่มองค์ความรู้ฐานชีวภาพ วิชาการ การสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ งบประมาณ และมีการส่งเสริมต่อเนื่องไม่เพียงแค่ทำกิจกรรมแล้วจบไป จนเกิดระบบกลไกที่เป็นรูปธรรมในวันนี้
วันนี้เป็นอีกกิจกรรมที่ต่อเนื่อง ที่เพิ่มศักยภาพให้ชุมชน ในการอนุรักษ์ป่าชุมชนห้วยต้นยางฯ (ในพื้นที่ 2,307 ไร่ ) ด้วยองค์ความรู้ “การผลิตถ่านไบโอชาร์” นอกจากจะจะช่วยลดเชื้อเพลิงการเกิดไฟป่า โดยเฉพาะเศษไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ที่มีความหนาย่อยสลายยาก จะนำมาใช้ประโยชน์เป็นถ่านไบโอชาร์ได้ เพราะมีการเผาไหม้อบความร้อนในอุณหภูมิสูง กว่า 700-800 องศาเซลเซียส (เผาไหม้สมบูรณ์) ไม่ก่อมลภาวะในการเผาและลดมลภาวะคาน์บอนผฯได้ด้วย อีกประการสำคัญยังสร้างผลิตภัณฑ์ถ่านไบโอชาร์คุณภาพใช้ประโยชน์หลายด้าน
ซึ่งจะเป็นอาชีพสร้างรายได้แก่คนในชุมชนได้ชัดเจนกล่าวได้ว่า เป็นองค์ความรู้ที่ดีมากมาก ซึ่งจะตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนด้วย ซึ่งชุมชนฯ เรามีวัตถุดิบมหาศาลในป่าชุมชนที่่ทิ้งและเป็นมลภาวะ และเป็นผลดีต่อการอนุรักษ์ป่าไม้ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย ขอบคุณ บริษัท GULF– CMWTE ที่ได้มาส่งเสริมเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชน และเกิดประโยชน์ต่อชุมชนในหลายๆด้าน ชุมชนจะได้นำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งการอนุรักษ์ป่าชุมชน ด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนต่อไป ขอขอบคุณครับ
ทีมข่าวเฉพาะกิจ / รายงาน
ข่าวล่าสุด
- วันที่[2025-10-12 ] GULF–CMWTE เสริมศักภาพ บ้านทุ่งยาว ดอยสะเก็ดฯ ลดคาร์บอนฯลดไฟป่าสร้างรายได้ชุมชน “ผลิตถ่านไบโอชาร์”....
- วันที่[2025-10-08 ] สภาอุตฯลพบุรี – จัดสัมมนาเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานสะอาด....
- วันที่[2025-09-22 ] อ.ท่าเรือ - ชาวบ้านชุมชนวัดสะตือ เริ่มทยอยขนสิ่งของขึ้นที่สูง ย้ายมาพักอาศัยภายในวัดสะตือ หลังจากเขื่อนพระราม 6 เพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่อง....
- วันที่[2025-09-22 ] ผู้ว่าฯอยุธยา - ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มแม่น้ำป่าสัก เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ....
- วันที่[2025-09-12 ] ผู้ว่าฯกาญจนบุรี - มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุข คลายทุกข์ให้ประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี....
- วันที่[2025-09-10 ] กัลฟ์ เอ็มทีพีฯ - จัดโครงการฯ “GULF MTP Healthy School” สนับสนุนตั้งศูนย์จุลินทรีย์โรงเรียนฯ มอบปุ๋ยน้ำชีวภาพ 50,000 ลิตร....
- วันที่[2025-09-06 ] พช.อยุธยา - หนุนการตลาดเครือข่ายเกษตรปลอดภัย ส่งเสริมเครือข่ายเกษตรกรให้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย....
- วันที่[2025-09-03 ] “เฮิร์บแลนด์” - เล็งปลุกกระแส “ต้นสาคู” พืชมากสรรพคุณแดนใต้ หวั่นถูกโลกยุคใหม่ลืมเลือน....
- วันที่[2025-09-03 ] นายกเทศมนตรีทองผาภูมิ – บูรณาการขับเคลื่อนนำชุมชนร่วมใจปลูกต้นไม้ ผลักดันเมืองสีเขียว สร้างอนาคตยั่งยืน....
- วันที่[2025-09-02 ] อยุธยา - ประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง ครั้งที่ 1/2568 ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์....