แล้วจะอยู่กันอย่างไร?..

แล้วจะอยู่กันอย่างไร?..

          "พี่รัญ  เป็นอะรั๊ย?!!.."  เสียงของ นางอุไร อบรม ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของ นายอรัญ สุทธิสุข  ตะโกนถามขึ้นด้วยเสียงอันดังพร้อมกับวิ่งเข้าไปหา เมื่อเห็นสามีอันเป็นที่รัก หกล้มเอาหัวฟาดกิ่งมะม่วงแล้วก็แน่นิ่งไป  " อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะพี่รัญ..ทำใจดีๆไว้...."  เสียงร่ำไห้ของเธอพร้อมกับเขย่าตัวแรงๆ ของสามีอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่สามารถที่จะปลุกให้เขาฟื้นตื่นขึ้นมาได้ ชายหนุ่มร่างเล็ก  ก็ยังคงลืมตาปากเบี้ยว แขนขากระดิกไม่ได้เลยแม้แต่น้อย  อยู่ในอ้อมกอดของภรรยาสุดที่รัก ที่เขย่าตัวกู่ก้องร้องเรียกอยู่ตลอดเวลา

           เช้าวันใหม่ของวันที่  27 มิถุนายน 2555  อรัญ สุทธิสุข ก็ลืมตาอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาลสิงห์บุรี  เขาเห็นสภาพของสายอะไรก็ไม่รู้?  ระโยงระยางไปหมด ครั้นจะพลิกตัวตะแคง  ก็ไม่มีแรงพอที่จะขยับ เหมือนกับโดนผีอำยังไงยังงั้น!!  ภาพที่เขาเห็นอยู่ตรงเบื้องหน้าปลายเตียง เป็นภาพของภรรยากำลังคุยกับคุณหมอผู้ชายอยู่ด้วยอาการก้มหน้านัยน์ตาเศร้าๆ

           อรัญ สุทธิสุข หลับตาลงถอนหายใจอีกครั้ง ภาพหนหลังในอดีตที่ผุดขึ้นมาจากความทรงจำ มันทำให้เขารู้สึกเสียดายกาลเวลาที่ผ่านมาเสียเหลือเกิน ถ้าเขารู้จักเก็บเงินเก็บทองกอบโกยทรัพย์สินต่างๆ จากความดังทะลุฟ้าของเขาในเวลานั้น เขาก็คงจะไม่อนาถาขนาดนี้  อายุแค่ 17 ปี  เขาก็ออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอนที่  บางมัญ สิงห์บุรี มาสมัครเป็นนักร้องกับวง ศักดิ์ โกศล ที่ซอยไสวสุวรรณ  บางโพ กทม. โดยเสียค่าสมัคร 10 บาท ทางหัวหน้าวงก็รับเขาไว้แต่เป็นตำแหน่งคอนวอยกับหางเครื่อง โดยได้ค่าตัววันละ 20 บาท แต่ก็ยังใจดีถ้าวันไหนนักร้องในวงขาด ก็จะให้เขาขึ้นไปร้องแทน โดยตั้งชื่อให้ว่า  ธง เทวราช ร้องเพลงในแนวของ ชาย เมืองสิงห์

           อยู่มาสักพักวงก็ต้องยุบไปเพราะไม่มีงาน  เขาจึงออกไปอยู่กับวง  ศรีสละ ทองธารา   ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย  เทวัญ ขวัญบ้านนา  และอีกหลายๆวง โดยที่เป็นตัวตลกประจำวงหรือตำแหน่งอะไรก็ได้ที่ขาด เขาจึงเปรียบเสมือนตัวอะไหล่ที่ขาดไม่ได้สำหรับวงดนตรีลูกทุ่งในยุคนั้น สามารถเสริมได้ทุกตำแหน่งหน้าที่ภายในวง

           จนกระทั่งเข้ามาอยู่ในวง  จีระพันธ์  วีระพงษ์  ก็ได้มีโอกาสพบกับ ครูฉลอง ภู่สว่าง ซึ่งครูก็เอาวันเดือนปีเกิดของเขาไปดูแล้วผูกดวงชะตาให้ พร้อมกับแต่งเพลงให้เพลงหนึ่งชื่อเพลง ผู้หญิงหน้าเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2516  ผลปรากฏว่าดังเปรี้ยงเลย  น้ำขึ้นให้รีบตัก ผลงานเพลงจาก ครูฉลอง ก็ตามมาอีกเป็นชุด ไม่ว่าจะเป็นเพลง หน้าไม่ทันสมัย หรือ ปูไข่ไก่หลง โดยเฉพาะเพลงหลังนี่เป็นตำนานไปซะแล้ว  คนร้องเพลงนี้ได้กันทั้งประเทศ แล้วครูก็เปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น ชายธง ทรงพล โอ้โห้... ดังที่สุดในประเทศไทยในเวลานั้นเลยก็ว่าได้

           อนิจจา...คนง่ายๆใจดีอย่างเขา ไม่รู้จักคำว่าความดังเป็นอย่างไร?  พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ไม่คิดที่จะต่อยอดจากชื่อเสียงที่ดังอยู่แล้วในขณะนั้น อยู่ไปวันๆ สนุกสนานกับการเดินสายเล่นตลกร้องเพลงไปทั่วประเทศ ไม่ได้เก็บหอมรอมริบไว้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย กว่าจะนึกขึ้นมาได้ ก็สายเกินไปเสียแล้ว  " เอ่อออออ...ออนอี๊  เอินเอื๋อเอ้าไอ....."  เขาพยายามถามถึงเงินที่มีอยู่ทั้งบ้านว่าพอจะมีค่ารักษาพยาบาลในการป่วยครั้งนี้หรือเปล่า?  " ไม่ถึงหมื่นหรอกจ๊ะพี่รัญ..."  " อืมมมมมมมมม..."

           เสียงผ่านจากลำคอเบาๆ พร้อมทั้งเสียงถอนหายใจอย่างรวยรินของ ชายธง ทรงพล ที่อ่อนระโหยโรยแรงอย่างน่าสงสาร สิ่งที่เขาทำมาโดยตลอด  ก็คือการหยิบยื่นความสุขและเสียงหัวเราะให้กับมิตรรักนักฟังเพลงมาอย่างสม่ำเสมอ แต่สิ่งที่สะท้อนกลับคืนมาในบั้นปลายของชีวิต กลับมีแต่เสียงสะอื้นที่แฝงไปด้วยความมืดอันน่าสะพรึงกลัวอยู่เบื้องหน้าของครอบครัวเขา...หยาดน้ำใสๆที่กำลังจะไหลออกมา กลับถูกปลายนิ้วของภรรยาปาดออกไปเสียก่อน

           " เดี๋ยวฉันจะไปพูดเรื่อง  ค่ารักษาพยาบาลกับหมอเขาอีกทีนะพี่...ไม่ต้องห่วงนะ...."  เธอกล่าวจบ ก็ฟุบหน้าปล่อยโฮอย่างไม่อายเตียงข้างๆ แล้วก็ฟุบหน้าร้องไห้อยู่ข้างเตียงของสามีที่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานแสนนาน........

ข่าวล่าสุด


- วันที่[2015-11-17 ] ปิดตลาดปล้น....


- วันที่[2015-04-20 ] แล้วจะอยู่กันอย่างไร?.. ....


ดูข่าวทั้งหมด