โรงไฟฟ้าอุทัย กลุ่มบริษัทกัลฟ์(Gulf) จับมือเครือข่าย ทสม.อยุธยา เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการสร้างองค์ความรู้ชุมชนต้นแบบ
1,722 อ่าน
โรงไฟฟ้าอุทัย กลุ่มบริษัทกัลฟ์(Gulf) จับมือเครือข่าย ทสม.อยุธยา เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการสร้างองค์ความรู้ชุมชนต้นแบบ
โรงไฟฟ้าอุทัย กลุ่มบริษัทกัลฟ์(Gulf) จับมือเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ทสม.พระนครศรีอยุธยา นักศึกษาวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต นสพ.สยามโพลล์ จัดกระบวนการสร้างองค์ความรู้ “ชุมชนต้นแบบพึ่งตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและธุรกิจชุมชน”
นายสมชาย พงษ์เทพิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร โรงไฟฟ้าอุทัย (บริษัทกัลฟ์ เจพี ยูที จำกัด ) กลุ่มบริษัทกัลฟ์ (Gulf) นายสมศักดิ์ สันธินาค ประธานเครือข่ายฯ ทสม. และ ผู้ใหญ่สุนทร พระครูถิ่น ประธานชุมชนต้นแบบบ้านไร่ หมู่ 6 ต.พระนอน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมจัดกระบวนการสรุปองค์ความรู้ ชุมชนต้นแบบ ร่วมกับ นักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กว่า 50 คน และ นสพ.สยามโพลล์ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีฐานการเรียนรู้หลัก 2 ฐานความรู้ ประกอบด้วย
ฐานการเรียนรู้ที่ 1 ด้านวัฒนธรรมชุมชนและธุรกิจชุมชน ณ หมู่บ้านตีมีดอรัญญิก ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิมที่สืบทอดวัฒนธรรมภูมิปัญญาการตีมีด และผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ในการเกษตร และเป็นแหล่งสินค้าโอทอปที่โดดเด่นระดับสากลของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเด็นเนื้อหาสำคัญ คือ กระบวนการสืบทอดภูมิปัญญา วัฒนธรรมดั้งเดิม และการปรับประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย รวมทั้งเทคนิควิธีการการบริหารจัดการกลุ่ม และการพัฒนาการตลาดที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งต่อการจัดการธุรกิจชุมชนสมัยใหม่
ฐานการเรียนรู้ที่ 2 การนำองค์ความรู้ด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง รัชกาลที่ 9 นำมาปฏิบัติอย่างจริงจังจนเกิดผลเชิงประจักษ์ในการพึ่งตนเองได้ ณ ชุมชนบ้านไร่ หมู่ 6 ต.พระนอน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และ ชุมชนโดยรอบ ฐานเรียนรู้นี้ มีประเด็นสำคัญ คือ การปรับผืนนา พื้นที่รอบบ้าน มาทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ ผลไม้ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา แยกขยะ ลดละอบายมุข สามารถลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ อย่างชัดเจน เป็นชุมชนที่ปลอดหนี้ นอกจากนี้ยังขยายแนวคิด ไปยังคุ้มต่างๆ ได้แก่
คุ้มฐานการเปลี่ยนวิถีชาวนา ซึ่งได้นำที่นาบางส่วนปรับเปลี่ยนมาทำตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ไร่นาสวนผสม แบบโคกหนองนา ผลิตอาหารเองได้และเหลือนำไปขายสร้างรายได้ วันละ 300-500 บาท มีผักผลไม้ มะพร้าว กล้วย ฯลฯ ขายทุกๆ เดือน มีปลาในสระน้ำ ยังขายได้อีกปีละ 2 ครั้ง รายได้เป็นหลักหมื่น อีกเรื่องที่น่าสนใจเช่นกัน คือ การปรับเปลี่ยนที่นา มาใช้ปลูกต้นใบเตย ทดแทนการทำนา จำนวน 2 ไร่ มีรายได้จากการตัดใบเตยขายทุกวัน ทุกเดือน ปีหนึ่งๆ รายได้หลายหมื่นบาททีเดียว เป็นการแก้ปัญหาการทำนาที่ราคาตกต่ำ ต้นทุนสูงได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น ยังมีกรณี ของการใช้พื้นที่รอบๆ บ้านทำเกษตรพอเพียงและเพาะพันธุ์กล้าไม้จำหน่าย รวมทั้งการสร้างพื้นที่สวนไร่นาให้สวยงามมีผลผลิตและมีสิ่งแวดล้อมที่ดี นอกจากสร้างความสุขสวยงามยังเป็นแหล่งศึกษาดูงาน ควบคู่กันไปในแนวทางการท่องเที่ยวชุมชน นับเป็นต้นแบบที่ทำง่ายๆ แต่ได้ผลดีเกินคาด เข้าทำนอง “เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน พลิกชีวิตได้ดีขึ้น” นี่คือ ผลเชิงประจักษ์ของ ชาวนาต้นแบบที่เดินตามรอยพ่อหลวง “เศรษฐกิจพอเพียง” ทางเลือกทางรอดของชาวนาและเกษตรกร นำไปประยุกต์ใช้ อีกแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้ใหญ่สุนทร พระครูถิ่น ประธานศูนย์เรียนรู้ ฯ กล่าวว่า แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ดีมาก สอดคล้องกับวิถีชาวนา เกษตรกร เมื่อได้ปฏิบัติจริงแล้ว เห็นผลดีอย่างมากกับตนเองและครอบครัว สามารถพึ่งพาตนเองได้เยอะสามารถลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ด้วยคนในครอบครัว และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ผมมีความเชื่อมั่นและเห็นว่านี่ คือ การพัฒนาที่ยั่งยืน ของเกษตรกรและชุมชน
นายสมศักดิ์ สันธินาค ประธานเครือข่าย ทสม.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ชุมชนในพระนครศรีอยุธยา มีหลายชุมชนที่พัฒนาชุมชนได้ประสบผลสำเร็จ และเป็นต้นแบบที่ชุมชนสามารถมาเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ การส่งเสริมและขยายผลสู่ประชาชนวงกว้าง หรือการต่อยอดในการสร้างองค์ความรู้ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหลายหน่วยงาน จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่งของชุมชนและประชาชนที่ยังไม่ได้มีโอกาสมาเรียนรู้ ได้เข้าถึงองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและครอบครัว
นายสมชาย พงษ์เทพิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฯ โรงไฟฟ้าอุทัย กลุ่มบริษัทกัลฟ์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายในการสนับสนุนการพัฒนาชุมชน และสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ชุมชนจำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ และการต่อยอดนวัตกรรมทางสังคม การร่วมสรุปการเรียนรู้ และการสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน การสรุปบทเรียน เป็นนวัตกรรมทางสังคมอย่างหนึ่ง ที่จะเป็นเครื่องมือการขยายผลสู่ชุมชนอื่นๆ สู่ประชาชน นักศึกษา และบุคคลสนใจ นำไปใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาตนเองและชุมชน ในวิถีที่เหมาะสมสอดคล้องกับตนเองได้ต่อไป
นายสิทธิรักษ์ แสงกล้า เจ้าของและบรรณาธิการ นสพ.สยามโพลล์ กล่าวว่า องค์ความรู้เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาชุมชนได้ แต่มีชาวบ้านจำนวนมากที่ยังไม่ทราบและเข้าไม่ถึงแหล่งเรียนรู้ ในบทบาทของสื่อมวลชน เห็นความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการสื่อสาร และการประสานงานเพื่อสร้างให้เกิดสังคมการเรียนรู้ในสังคม อันจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติของเราต่อไป
ข่าวล่าสุด
- วันที่[2024-12-02 ] สภาเกษตรกรอยุธยา ชาวนารักในหลวง น้อมเกล้าถวายข้าวสาร 73 ตัน ช่วยประชาชน....
- วันที่[2024-11-19 ] เมืองพัทยา \'รองมาโนช\' นำทีมปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะ หลังชาวบ้านร้องสัตว์มีพิษชุกชุม คาดวันนี้เสร็จ....
- วันที่[2024-11-13 ] สัปดาห์หน้า! เมืองพัทยา รับปากเตรียมปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะ หลังชาวบ้านร้องสัตว์มีพิษชุกชุม....
- วันที่[2024-10-29 ] อธิบดีกรมวิชาการเกษตร จับมือประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก (AIPH) ลุยเดินหน้าจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี 1 พฤศจิกายน 2569....
- วันที่[2024-09-25 ] GULF ร่วมส่งเสริม “เปิดศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์” ภายใต้โครงการ “ระยองไม่เทรวม” เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์สู่เมืองจุลินทรีย์ยั่งยืน....
- วันที่[2024-09-13 ] ประมงอยุธยา ประกอบพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2567....
- วันที่[2024-09-03 ] ราชภัฏฯ อยุธยา โชว์ผลงานนวัตกรรมท้องถิ่น สร้างชุมชนยั่งยืน....
- วันที่[2024-08-26 ] ผู้ว่าฯอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบความแข็งแรงประตูระบายน้ำบ้านเลน ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด ประตูระบายน้ำกุฎี รับมือมวลน้ำจากภาคเหนือ....
- วันที่[2024-08-17 ] คุมประพฤติอยุธยา นำผู้ถูกคุมความประพฤติ ร่วมกันปลูกต้นไม้ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เฉลิมพระเกียรติในหลวง....