ระยอง - ก้าวหน้าสู่ปีที่ 3 Gulf MTP - ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ร่วมกับ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ฟื้นฟูป่าชายเลน ( ด้วยนวัตกรรมจุลินทรีย์ชีวภาพ ) ประสบผลสำเร็จสูง อัตรารอดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เติบโตแข็งแรงอย
262 อ่าน
ระยอง - ก้าวหน้าสู่ปีที่ 3 Gulf MTP - ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ร่วมกับ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ฟื้นฟูป่าชายเลน ( ด้วยนวัตกรรมจุลินทรีย์ชีวภาพ ) ประสบผลสำเร็จสูง อัตรารอดกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เติบโตแข็งแรงอย่างมาก
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า โครงการฟื้นฟูป่าชายเลน จังหวัดระยอง ของ บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (Gulf MTP) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ( ประกอบด้วย สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร ) บริษัท อิตาเลี่ยนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)(ITD) และ บริษัท PMSC ) ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา เทศบาลตำบลเนินพระ อ.เมืองระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งโครงการฯมีนโยบาย การอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้านระยอง ให้ความสำคัญแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองระยอง คือ ผืนป่าชายเลน บริเวณเทศบาลตำบลเนินพระฯ ซึ่งมีความเสื่อมโทรมและบริเวณโดยรอบล้มหายตายไปจำนวนมาก จึงได้จัดโครงการในการปลูกป่าเพิ่มเติมและฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม ดังกล่าวขึ้น เริ่มต้นในปี 2565
สำหรับโครงการนี้ ไม่ได้เพียงแต่นำต้นกล้าไปปลูกเท่านั้น แล้วปล่อยตามธรรมชาติเท่านั้น โครงการฯ - บริษัท Gulf MTP โดย ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน และ นายศุภฤกษ์ โสภณราพงษ์ ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ฯ ส่งเสริมความร่วมมือกับ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา” นำโดย นายลำเพย แว่วเสียง ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา และ เทศบาลตำบลเนินพระฯ นำโดย นายบุญธรรม ใยกล้า นายกเทศมนตรีฯ โดยฐานแนวคิด กระบวนการทำงานบนองค์ความรู้เกี่ยวกับ “นวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (Effective Microorganism)” การจัดการด้านฐานเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-Based Economy ) และ แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ( Circular Economy) และ สร้างกลไกการทำงานร่วมมือกับชุมชน และองค์กรท้องถิ่น ในการดำเนินงานต่อเนื่อง
เริ่มดำเนินงาน ปี 2565 โดยจัดอบรมให้ความรู้ ด้าน “นวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ” แก่สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา และ จัดตั้ง “ ศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ “ หลังจากนั้นส่งเสริมชุมชนได้นำเศษปลาก้างปลามาผลิตเป็น ฮอล์โมนและปุ๋ยน้ำชีวภาพ ปุ๋ยหมัก และ จุลินทรีย์ก้อน (EM Ball ) ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใช้สามารถในการเกษตร ปศุสัตว์ และครัวเรือน ฯลฯ สิ่งสำคัญ คือ การผลิต ออล์โมนพืช ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ปุ๋ยหมัก และจุลินทรีย์ก้อน (EM Ball ) ใช้ในการปรับสภาพน้ำ สภาพดิน และใช้เสริมธาตุอาหารต้นกล้าที่ปลูกใหม่ บริเวณแปลงปลูกป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม ที่โครงการจะพื้นฟู จำนวน 3 จำนวน 3 แปลง
โดย แปลงที่ 1 ปลูกต้นกล้า เพิ่ม ประมาณ 1,000 ต้น (ปี 2565) โดยใช้จุลินทรีย์ฯ ในการปรับสภาพพื้นที่ น้ำ และดิน ก่อนประมาณ 1 เดือน และนำพนักงาน ชาวประมง เจ้าหน้าที่ฯ เทศบาลตำบลเนินพระฯ ร่วมกันปลูกป่าชายเลน และจัดบทบาทหน้าที่ให้กลุ่มประมงพื้นบ้านหาดสุชาดา ติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับนักส่งเสริมจากบริษัท Gulf MTP ติดตามและใส่ปุ๋ย โยนจุลินทรีย์ก้อน - อีเอ็มบอล เป็นระยะๆ ทุก 3 - 4 เดือน / ปี เริ่มต้นปลูกจากต้นกล้า สูงประมาณ 20 – 35 หลังจากผ่านไป 1 ปี พบว่า มีอัตราการรอดสูงมาก กว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ มีอัตราเติบโตใบเขียว รากหงอกแข็งแรง สูงเฉลี่ย 80-120 เซ็นติเมตร เติบโตเร็วพอสมควรเลยทีเดียว ต่อมาในปีที่ 2 -3 ปลูกเพิ่มอีกกว่า 2,000 ต้น รวมกว่า 3,000 ต้น
ล่าสุด การติดตามผลปีที่ 3 (ปี 2567) พบว่า ต้นกล้าที่ปลูก อัตราการรอด กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เติบโตแข็งแรงสูงท่วมหัวแล้ว สูงกว่า 150-200 เซ็นติเมตร มีการแตกแขนงรากที่แข็งแรงแทงลงสู่ดิน กิ่งก้านใบสมบูรณ์ ปัจจัยส่วนหนึ่งอันเป็นผลจากการใช้จุลินทรีย์ /ปุ๋ย ช่วยปรับสภาพน้ำความอุดมสมบูรณ์ของดิน การมีปุ๋ยเสริมการเติบโตมีธาตุอาหารมากกว่า การปลูกแล้วปล่อยตามธรรมชาติ และสำคัญอีกกลไก คือ มีชุมชนที่ทำหน้าที่ ติดตามดูแล คอยตัดหญ้าเป็นช่วงๆ ไม่ปล่อยให้หญ้าสูงเกินต้นกล้าที่ปลูกเพราะมันจะแย่งอาหาร รวมทั้งกำจัดเถาวัลย์เปรียง ซึ่งเป็นศัตรูพืชป่าชายเลนที่สำคัญตัวหนึ่ง มันจะมามารัดต้นกล้า และดูดกินอาหารจากต้อนกล้าให้ตายลงไป สิ่งเหล่านี้ประกอบกันโครงการนี้ จึงมีอัตราการตายน้อยและภาวการณ์เติบโตมากเป็นพิเศษ หากเทียบกับการปลูกแล้วปล่อยตามธรรมชาติ หรือไม่มีการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องจนต้นกล้าโตเพียงพอยินต้นต่อไป
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ติดตามด้วย เป็นอีกหนึ่งโครงการฯ ที่น่าสนใจมาก ในกลไกการทำงานและฐานความรู้ที่นำมาใช้ โดยการส่งเสริมจาก บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (Gulf MTP) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 กลไกความร่วมมือกับ กลุ่มประมงพื้นบ้าน และเทศบาลตำบลเนินพระฯ ดำเนินการมา เข้าปี ที่ 3 ก่อเกิดเป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในการฟื้นฟูป่าชายเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจากที่เคยคือการปลูกแล้วปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ และผลที่เกิดขึ้น น่าจะก่อเกิดการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่สีเขียว แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ที่เคยอุดมสมบูรณ์ของเมืองระยอง ให้คงอยู่สมบูรณ์ขึ้นได้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งโมเดลที่น่าทึ่ง ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน และระยะยาวยังมีกลไกภาคท้องถิ่นและชุมชน ในการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องต่อไป ตามแนวทางการพัฒนาที่ชุมชนเป็นฐานในการพัฒนา (Community Based development ) และยังสร้างให้ชุมชนชาวประมง มีอาชีพเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนสร้างรายได้ แก่ชุมชนด้วยจนถึงปัจจุบัน เป็นตัวอย่างที่ดีของ CSR ภาคธุรกิจที่นำความรู้และกระบวนการ จัดการร่วมกับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นพื้นฐานแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป (Sustainable development )
ทีมข่าวเฉพาะกิจระยอง / รายงาน
ข่าวล่าสุด
- วันที่[2024-11-19 ] เมืองพัทยา \'รองมาโนช\' นำทีมปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะ หลังชาวบ้านร้องสัตว์มีพิษชุกชุม คาดวันนี้เสร็จ....
- วันที่[2024-11-13 ] สัปดาห์หน้า! เมืองพัทยา รับปากเตรียมปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะ หลังชาวบ้านร้องสัตว์มีพิษชุกชุม....
- วันที่[2024-10-29 ] อธิบดีกรมวิชาการเกษตร จับมือประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก (AIPH) ลุยเดินหน้าจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี 1 พฤศจิกายน 2569....
- วันที่[2024-09-25 ] GULF ร่วมส่งเสริม “เปิดศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์” ภายใต้โครงการ “ระยองไม่เทรวม” เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์สู่เมืองจุลินทรีย์ยั่งยืน....
- วันที่[2024-09-13 ] ประมงอยุธยา ประกอบพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2567....
- วันที่[2024-09-03 ] ราชภัฏฯ อยุธยา โชว์ผลงานนวัตกรรมท้องถิ่น สร้างชุมชนยั่งยืน....
- วันที่[2024-08-26 ] ผู้ว่าฯอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบความแข็งแรงประตูระบายน้ำบ้านเลน ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด ประตูระบายน้ำกุฎี รับมือมวลน้ำจากภาคเหนือ....
- วันที่[2024-08-17 ] คุมประพฤติอยุธยา นำผู้ถูกคุมความประพฤติ ร่วมกันปลูกต้นไม้ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เฉลิมพระเกียรติในหลวง....
- วันที่[2024-08-12 ] อยุธยา - เสื่อมโทรมตามกาลเวลาหมดสภาพ “โรงสีข้าวพระราชทาน”....