พ่อเมืองอยุธยา  ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุดวังแดงริมแม่น้ำป่าสัก – เยี่ยมชมโครงการขุดลอกคลองระบายน้ำท่าเจ้าสนุก

          เวลา 10:30น. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายเดชาธร  เชาว์เลขา  นายอำเภอท่าเรือ นายเชาว์ลิต  แสงไพโรจน์  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังแดง กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก บริเวณหมู่ 3 ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ ระยะความยาว 100 เมตร โดยเป็นงบประมาณเหลือจ่ายปีงบฯ 2563 ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน มีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ณ ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ

        โครงการฯนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับการร้องขอจากประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนที่บริเวณดังกล่าวว่าตลิ่งทรุดตัวบริเวณนี้ มีผลให้บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะเสียหาย และเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้พิจารณาจัดสรรงบเหลือจ่ายฯ มาก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน

         นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ  ได้อธิบายกับผู้นำทั้งฝ่ายท้องที่และท้องถิ่นที่มารอให้ข้อมูลว่า ปัญหาเรื่องตลิ่งพังนั้นปัญหาร่วมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ต้องใช้งบประมาณสูงเพื่อแก้ไข  ซึ่งจะเร่งพิจารณาในจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายแก่บ้านเรือน หรือชีวิตของประชาชน เป็นลำดับแรก

          ต่อจากนั้น นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายอำเภอท่าเรือ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเจ้าสนุก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการขุดลอกคลองระบายน้ำ หมู่ 2,4,6,8 ตำบลท่าเจ้าสนุก อำเภอท่าเรือ ตามโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563  ซึ่งรัฐบาลจัดสรรให้ดำเนินการในหลายอำเภอของ จ.พระนครศรีอยุธยา

       สำหรับโครงการนี้ เป็น 1 ใน 4 โครงการบรรเทาภัยแล้งฯ ที่อำเภอท่าเรือได้รับงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาคลองที่ตื้นเขินจากการทับถมของดินตะกอนต่างๆ และวัชพืช  เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ ได้มีน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรอย่างเหมาะสม และเพียงพอ  ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แนะนำนายอำเภอ และองค์การบริหารส่วนตำบล ให้กำกับการจัดสรรน้ำของเกษตรกรผู้ใช้น้ำ และเร่ง ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับเกษตรให้งดเว้นการทำนารอบที่ 2 หรืออาจปรับเปลี่ยนเป็นการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน