เกษตรอยุธยา  เรียกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องชี้แจงไม่ห้ามเกษตรกรปลูกข้าวหอมพวง แต่ไม่เหมาะกับภาคกลาง !!

กรณีนายกสมาคมชาวนาเกษตรกรไทย แจ้งเตือนเกษตรกรปลูกข้าวหอมพวง หรือ จัสมิน 85  ได้ราคาดีค่อนข้างสูง อยู่ที่ 8,000-8,500 บาท/ตันอยากจะเตือนชาวนาที่ปลูกข้าวชนิดนี้ และกำลังคิดที่จะปลูกข้าวอยู่อีกให้ระวังและเตรียมใจไว้ได้เลย  เนื่องจากผลิตในฤดูกาลหน้าราคาข้าวที่รับซื้อจะตกต่ำ

           วันที่ 7 พ.ค. 62 นายวรชันย์  หลักกรด  เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  กล่าวว่า  ได้มีการเรียกประชุมประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานเกษตรอำเภอเสนา ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา อุปนายก-เลขาสมาชมชาวนาไทย นายก อบต. ผู้นำชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อชี้แจงการปลูกข้าวพันธุ์จัสมิน 85 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลมารวิชัย  อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

           นายวรชันย์  หลักกรด  กล่าวอีกว่า  สำนักงานเกษตรจังหวัดฯ ได้ชี้แจงแนวทางการผลิตโดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต  แนะนำให้มีการรวมตัวกันผลิตข้าวในรูปแบบกลุ่ม เช่น การรวมกลุ่มการทำนาแปลงใหญ่  พร้อมชี้แจงแนวทาง และหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกร นอกจากนี้ยังได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาเรื่องเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เนื่องจากเพลี้ยกระโดดมีการปรับตัว ทำให้เมื่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในพื้นที่ ไม่ว่าเกษตรกรจะปลูกข้าวพันธุ์ใดก็จะได้รับความเสียหายเช่นกันกัน

      ส่วนกรณี ที่เกษตรกรในพื้นที่ อ.เสนา มีความต้องการปลูกข้าวหอมพวง หรือที่ชาวนาเรียกกันว่าพันธุ์จัสมิน 85 เนื่องจากให้ผลผลิตสูง ประมาณ 1,200-1,300 กก./ไร่ ได้แนะนำว่า ข้าวชนิดนี้จะต้องปลูกในช่วงที่อากาศเย็น คือ เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม เพราะเป็นข้าวอายุสั้นสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว และเหมาะกับการเพาะปลูกในพื้นที่ที่มีน้ำน้อย  ที่สำคัญราคาขายจะดีกว่าข้าวพันธุ์ เพราะมีการรับซื้อถึง 8,500 บาท/ตัน จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรปลูกข้าวชนิดนี้มากขึ้น โดยข้าวชนิดนี้ไม่เหมาะกับการปลูกในพื้นที่ภาคกลาง  เพราะสภาพอากาศร้อน และการส่งน้ำจะแตกต่างกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งเกษตรกรต่างเข้าใจ และเสนอให้กรมการข้าว ปรับปรุงและรับรองพันธุ์ข้าวจัสมิน 85 เพื่อเป็นทางเลือกของเกษตรกร