นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เร่งผลักดันให้ครอบครัวเกษตรกรชาวสวนยาง ปรับเปลี่ยนการขายยางก้อนถ้วยให้เป็นการขายน้ำยางสด  หวังให้ความเป็นธรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เร่งผลักดันให้ครอบครัวเกษตรกรชาวสวนยาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคเหนือ ที่ถูกเอาเปรียบจากผู้รับซื้อยางก้อนถ้วย ซึ่งไม่มีมาตรฐานในการหาเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแบบแห้ง ( DRC)  ปรับเปลี่ยนการขายยางก้อนถ้วย  ให้เป็นการขายน้ำยางสด  หวังให้ความเป็นธรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

          นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสหารือกับ  นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการผู้ว่าการยางพาราแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ที่จังหวัดระยอง เพื่อหาทางเลือกให้กับครอบครัวเกษตรกรชาวสวนยาง  ที่ถูกเอาเปรียบจากผู้รับซื้อยางก้อนถ้วย ซึ่งไม่มีมาตรฐานในการหาเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแบบแห้ง (DRC)  ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุม พ.ศ.2542 มาตรา 4 (4) ในการหาเนื้อยางแห้งจากยางก้อนถ้วยในการซื้อขาย  เนื่องจากที่ผ่านมาการซื้อขายยางก้อนถ้วยใช้การดูด้วยตาเปล่า  ไม่มีการตรวจวัดปริมาณเนื้อยางแห้งแต่อย่างใด

          ล่าสุด นายสุขทัศน์  ต่างวิริยกุล ได้กำหนดให้ตลาดกลางยางพารา​  จังหวัดระยอง  เป็นจุดรวบรวมน้ำยางสดของเกษตรกร  ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ชาวเกษตรกรผู้ขายน้ำยาง และผู้ที่รับซื้อ  พร้อมกันนี้  ตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง  จะจัดอบรมทำแผนธุรกิจ และเป็นศูนย์รวบรวมน้ำยางสด เพื่อให้เกษตรกรได้รับความรู้ในการหาเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้งต่อไป

          นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนำร่องจะเริ่มดำเนินการจังหวัดละ 1 จุด เพื่อรวบรวมน้ำยางสด​  ประกอบด้วย  จังหวัดเชียงใหม่  ลำพูน  เลย อุดรธานี  สกลนคร  ศรีสะเกษ  บุรีรัมย์ สุรินทร์ และจังหวัดบึงกาฬ   ทั้งนี้ จะต้องเข้ารับการอบรมทำแผนธุรกิจซื้อขายน้ำยางสด ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนจากการขายยางก้อนถ้วย  มาเป็นการขายน้ำยางสด อย่างไรก็ตาม สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งคณะทำงานสมาคมชาวสวนยางฯ เพื่อร่วมทำงานกับการยางพาราแห่งประเทศไทย  พร้อมเตรียมเสนอให้สวนยางที่กระทรวงการคลัง  กำหนดเก็บภาษีที่ปลูกยางต่ำกว่า 80 ต้น/ไร่ ลดลงเป็น 25 ต้น/ไร่

          จึงนำยางพันธุ์ RRIM 600 ออกจากยางชั้น 1และส่งเสริมให้ปลูกยางที่มีผลผลิตสูงกว่า R600 เท่าตัว  สนับสนุนให้ใช้สารเร่งยางใน R600 เพื่อเพิ่มน้ำยางเท่าตัวเหมือนกับประเทศมาเลเซีย และเสนอให้ นายอำนวย ปะติเส  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ในฐานะประธานสภาการยางฯ เป็นกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ​ (กนย.)​ อีกตำแหน่งหนึ่ง