อยุธยา ผช.ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า  โรงงานลักลอบเก็บกากสารเคมีอันตรายเชื่อมโยงหลายจังหวัด

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมด้วย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโรงงานลักลอบเก็บสารเคมีอันตราย ในพื้นที่โรงงาน บริษัทเอกอุทัย ต.สามบัณฑิต  อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา  เดินสำรวจตรวจสอบพื้นที่ต่างๆรอบโรงงานและมีการขุดดินที่บริเวณบ่อทิ้งสารเคมี ซึ่งหลังจากทำการขุดดินลงไป  มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาและมีกลิ่นเหม็นของสารเคมีอย่างรุนแรง

          วันที่ 3 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 น.พล.ต.ท.ธัชชัย  ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโรงงานลักลอบเก็บสารเคมีอันตราย ในพื้นที่โรงงาน บริษัทเอกอุทัย ต.สามบัณฑิต  อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทาง พล.ต.ท.ธัชชัย  ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินสำรวจพื้นที่ต่างๆรอบโรงงานและมีการขุดดินที่บริเวณบ่อทิ้งสารเคมี ซึ่งหลังจากทำการขุดดินลงไปมีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาและมีกลิ่นเหม็นของสารเคมีอย่างรุนแรง

          พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลสำคัญ คือ โกดังภาชี ถูกเช่าโดยเอกชนรายหนึ่ง โดยไม่ได้แจ้งเจ้าของโกดังว่า  จะนำมาใช้เก็บถังสารเคมีอันตราย  แต่ต่อมาถูกจับได้ว่า มีถังสารเคมีซึ่งเป็นกากของเสียอันตราย  จากอุตสาหกรรมจำนวนมาก  ถูกขนย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ ในระหว่างการตรวจสอบ มีรายงานยืนยันจากกรมควบคุมมลพิษ เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ด้วยว่า รถบรรทุกขนส่งของเสียอันตราย  ที่ถูกยึดไว้เป็นของ “บริษัท เอกอุทัย จำกัด” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในกิจการรับบำบัดและกำจัดของเสีย  มีที่ตั้ง 3 สาขา คือ สาขาอุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา  สาขากลางดง จ.นครราชสีมา และสาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ  จะรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับทางเจ้าของโรงงาน  นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเช่านาข้างเคียงเพื่อทิ้งสารเคมีลงไป  ซึ่งหากพบว่าเจ้าของที่นา รู้เห็นกับการกระทำดังกล่าว ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของนาด้วย

          สำหรับโรงงานบริษัทเอกอุทัย  ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม  ออกคำสั่งปิดกิจการตั้งแต่เดือนธันวาคม  หลังครบกำหนดให้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาการรั่วไหลและทิ้งสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตราย ทั้งภายในโรงงานและรอบโรงงาน แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด  ซึ่งคำสั่งนี้มีผลให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการไปด้วย  ซึ่งจากการตรวจสอบ พบแอ่งน้ำปนเปื้อนสารเคมีที่เจิ่งนอง  บริเวณหน้าสำนักงาน และริมถนนของบริษัทฯ  สามารถวัดค่าเบื้องต้นได้  pH = 1-2 มีค่าความเป็นกรดเข้มข้น  จึงใช้ทรายผสมปูนขาว  เทกลบน้ำปนเปื้อน รวมทั้งใช้อุปกรณ์สูบน้ำของ อบต.สามบัณฑิต สูบน้ำปนเปื้อนสารเคมีที่อยู่บริเวณดังกล่าว  ใส่ถัง IBC ขนาด 1,000 ลิตร สูบได้รวมทั้งสิ้น  จำนวน 24 ถัง แล้วนำถัง IBC ที่บรรจุน้ำปนเปื้อนสารเคมี  ไปวางไว้บริเวณลานจอดรถหน้าบริษัทฯ ที่มีหลังคา พร้อมนำสายกั้นเขตมาล้อมถัง IBC เพื่อกั้นพื้นที่ฯ