นายกตู่  ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำล้นตลิ่ง ชี้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ระบบ

อยุธยา นายกรัฐมนตรี  ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง จำนวน 500 ชุด

           เวลา 13.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 59 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางมาเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน  พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และตรวจสภาพน้ำท่วม ที่วัดโบสถ์ (ล่าง)  ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้กล่าวทักทาย หัวหน้าส่วนราชการ  ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน พี่น้องประชาชน  และพูดถึงแนวทางการไขปัญหาบ้านเมืองอย่างรอบด้านนานถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที  สำหรับในประเด็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ต้องแก้ไขที่ระบบและทันต่อการเปลี่ยนแปลง ของสภาวการณ์ของสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศ  เพราะปัจจุบัน ฝนไม่ได้ตกเหนือเขื่อน ทางภาคเหนือตอนบน แต่ดันมาตกหนักในทางภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ซึ่งไม่มีเขื่อนรองรับน้ำ ดังนั้นแนวทางแก้มลิงสองฝั่งแม่น้ำ  จึงควรนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

           ส่วนน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมาภาคกลางตอนล่าง แก้มลิง 2 ฝั่งเจ้าพระยา ก็ต้องใช้แต่ต้องในเวลาที่เหมาะสม เพราะว่าช่วงนี้น้ำทะเลหนุนไม่สูงสุด ก็จำเป็นต้องผลักดันมวลน้ำท่วมลงทะเลให้มากสุด และเมื่อเวลาน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งเราผลักดันน้ำลงทะเลไม่ได้ จึงจะใช้แก้มลิงเพื่อรับน้ำ แบบนี้จึงเป็นการทำงานอย่างเป็นระบบ

           สำหรับแนวทางที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เสนอในเรื่องการจัดโชนหรือพื้นที่เพราะปลูกนั้น เห็นด้วยและควรทำทั้งประเทศ เราต้องสร้างกติกาในการเพราะปลูกทุกลุ่มน้ำ โดยจะปลูกพืชอะไร ปลูกเท่าใด ใช้เวลาเท่าใด แต่เสนอให้ปลูกพืชที่ตลาดโลกต้องการ หรือปลูกแบบเพื่อมูลค่า เพื่อขายได้มีกำไร ไม่ใช่ปลูกข้าวแบบเดิม  ปลูกกันจำนวนมากจนล้นตลาด และมาบอกว่าราคาถูกเพราะโรงสีกดราคารับซื้อ ราคาผลผลิตตกต่ำ

           จากนั้นในเวลา 14.30 น. จากนั้นได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้าน และลงเรือนานเกือบ 1 ชั่วโมงไปตามแม่น้ำน้อย เพื่อมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และในเวลา 15.30 น.ได้เดินทางไปจังหวัดชัยนาทต่อไป