มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เชิญถุงยังชีพพระราชทาน มอบให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.บางบาล

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เชิญถุงยังชีพพระราชทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 326 รูป มอบให้แก่ประชาชน จำนวน 6,524 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชน ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอบางบาล  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

          วันที่ 16 ตุลาคม 2568  ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษา และทำหน้าที่แทนประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เลขาธิการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย  นายเอสนะ ชินชำนาญ ผู้อำนวยการกองงานในพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอฯ กรมหมื่นสุทธนารีนาถ  นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นายเกรียงศักดิ์ ปึกขาว นายอำเภอบางบาล  ผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดฯ ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เข้าร่วมในพิธีเชิญถุงยังชีพพระราชทาน ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 326 รูป และมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางบาล จำนวน 6,524 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชน

          มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร จัดตั้งตามพระดำริของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเชื่อมโยงให้ภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมกันเกื้อหนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากจากอุทกภัยและภัยพิบัติที่รุนแรง คือการร่วมกัน ระดมองค์ความรู้นวัตกรรม กำลังแรงกาย ทุนทรัพย์ และ จิตสาธารณะเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างครบวงจร โดยมูลนิธิฯ ปฏิบัติงานและยึดหลักภายใต้แนวคิด “แบ่งปัน พอเพียง ยั่งยืน”

          ทั้งนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประชาชนผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง จำนวน 12 อำเภอ 150 ตำบล 907 หมู่บ้าน 51,235 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย พื้นที่อำเภอเสนา อำเภอบางบาล และอำเภอบางไทร  ในส่วนของอำเภอบางบาล  มีประชาชนผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง  จำนวน 16 ตำบล 101 หมู่บ้าน 6,653 ครัวเรือน