สื่อมวลชน ยกทัพแต่งชุดไทยโบราณเซอร์ไพรส์งานแถลงข่าวยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก

เมืองกรุงเก่า กองทัพสื่อมวลชน แต่งชุดไทยโบราณเซอร์ไพรส์งานแถลงข่าวยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ฮือฮานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  เจอชุดไทยโบราณกองทัพสื่อมวลชน  ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก  พ่อเมืองกรุงเก่าตกใจอุทานไม่น่าเชื่อสื่อมวลชนเซอร์ไพรส์งานนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ

        เวลา 09.00 น.  วันที่ 6 ธ.ค. 60  ดร.สุจินต์  ไชยชุมศักดิ์  พ่อเมืองอยุธยา  ประธานเปิดแถลงข่าวการจัดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก และงานกาชาดจังหวัด ประจำปี 2560 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเมืองมรดกโลก สืบเนื่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ  หรือยูเนสโก  มีมติให้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาไว้ในบัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรม  เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534  ณ กรุงคาร์เท็จ ประเทศตูนีเซีย  โดยมี พ.ญ.สุวรรณา  ไชยชุมศักดิ์  นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายเรวัต ประสงค์ รองพ่อเมืองอยุธยา  นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา นางนิตยา หิรัญประดิษฐ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน  ร่วมในพิธีฯ  ภายในบริเวณงานแถลงข่าว ชมตลาดย้อนยุค  ชมการสาธิตการตีมีดอรัญญิก  การสานปลาตะเพียน และการถักเปล  เรียกน้ำย่อยสร้างสีสัน โดยเฉพาะกองทัพสื่อมวลชนแขนงต่างๆ แต่งชุดไทยโบราณย้อนยุค สร้างความฮือฮาคึกคัก อวดสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  ณ  บริเวณพระวิหารพระป่าเลย์ไล  วัดพระศรีสรรเพชญ์  อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

        ดร.สุจินต์  ไชยชุมศักดิ์  กล่าวว่า  งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ประจำปี 2560  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-24 ธันวาคมนี้ ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี  เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเมืองมรดกโลก สืบเนื่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก มีมติให้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ไว้ในบัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ณ กรุงคาร์เท็จ ประเทศตูนีเซีย กิจกรรมภายในงานจะได้ชมการแสดงแสงเสียง ตลาดย้อนยุค ถนนคนเดิน  ถนนกินเส้น  ลานวัฒนธรรม  เทศกาลอาหารนานาชาติ งานกาชาด  การประกวด the best to be number   การประกวดเยาวชนคนเก่ง  การประกวดหนูน้อยกรุงเก่า  การประกวด miss Ayutthaya  การประกวด Ayutthaya talent  การจัดแสดงภาพยนตร์ซีรีส์เทิดพระเกียรติ “ศรีอโยธยา  และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายท่ามกลางบรรยากาศเมืองมรดกโลก

      โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ธันวาคมอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่จาก 16 อำเภอ  ส่วนราชการ  รวม 10 ขบวน  และที่สำคัญมีการประกวดขบวนแห่ด้วย  มีเงินรางวัล 3 รางวัล รางวัลที่ 1 หนึ่งแสนบาท รางวัลที่ 2 แปดหมื่นบาท  รางวัลที่ 3 เจ็ดหมื่นบาท และรางวัลชมเชยอีก 7 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท เรียกได้ว่าต้องแต่งกายให้สวยให้หล่อที่สุด แต่ต้องคงไว้ด้วยวัฒนธรรมไทย แต่งไทยร่วมงาน  โดยเฉพาะปีนี้จังหวัดได้รณรงค์ให้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทุกภาคส่วน  แต่งกายผ้าไทยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา  รวมถึงเดือนธันวาคมนี้ด้วย  เพื่อเฉลิมฉลองการเป็นเมืองมรดกโลกของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  การจัดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก รวม 10 วัน  แต่ละวันได้เชิญชวนให้แต่งกายผ้าไทยเข้าชมงาน   ถ้าใครไม่ได้สวมใส่ผ้าไทยมา สามารถเช่าชุด หรือซื้อได้ในราคาย่อมเยา   โดยจังหวัดได้จัดร้านค้าไว้บริการรวม  3 จุดทางเข้า-ออก

          สำหรับการแสดงแสงเสียงปีนี้ใช้ชื่อว่า “ยอยศกษัตรา อโยธยาศรีรามเทพนคร” มี  5 พระองค์ เป็นไฮไลท์โชว์แสดงแสงเสียง สู่สายตาชาวโลก    จัดแสดงแสงเสียง และสื่อผสมประกอบจินตภาพ ชุด “ยอยศกษัตราอโยธยาศรีรามเทพนคร” มุ่งเน้นนำเสนอถึงพระมหากรุณาธิคุณ ความเสียสละ ความกล้าหาญ  พระปรีชาสามารถ ในการปกครอง ฟื้นฟู กอบกู้บ้านเมือง และพระบุญญาบารมีของบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า  และพระวีรกษัตริย์ที่สำคัญในยุคสมัยของกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของไทย รวม 5 พระองค์  คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง ) สมเด็จพระศรีสุริโยทัย  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และพระยากำแพงเพชร (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) รวมทั้ง นำเสนอพระราชกรณียกิจสำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระปรีชาสามารถจนได้รับพระราชสมัญญา “มหาราช” คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(พระปิยะมหาราช) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชฯ(พระภัทรมหาราช) เพื่อให้ผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับรู้ ถึงพระเกียรติคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่ในอดีต ที่ปกปักษ์รักษาบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัยและเจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน

         นอกจากนั้นยังได้ร่วมดื่มด่ำชื่นชมกับการแสดงในมิติใหม่กับแนวคิด บทบาท เครื่องแต่งกายที่วิจิตรอลังการตามแบบแผนราชสำนักอโยธยา  ตื่นตากับฉากขบวนแห่เลียบพระนคร และราชทูตนานาชาติ  ชมการรบทัพจับศึก และฉากยุทธหัตถีที่ตื่นเต้นเร้าใจ  รวมถึง  มหรสพ นาฏศิลป์อันวิจิตรในฉากนาฏการ  บัตรเข้าชมงานแสงเสียง มีราคา 500 บาท  200 บาท   100 บาทสำหรับคนอยุธยา  และนักเรียน  50 บาท

         จังหวัดยังได้ประดับไฟสวยงามในเขตเกาะเมือง และนอกเกาะเมือง ตั้งแต่สะพานปรีดี จรดศาลากลางจังหวัดหลังเก่า  ตลอดไปถึงศาลหลักเมือง คุ้มขุนแผน วิหารพระมงคลบพิตร วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระเจ้าอู่ทอง และวัดพระราม เพื่อเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยว เก็บภาพประทับใจเป็นที่ระลึกท่ามกลางเมืองมรดกโลก พร้อมกันนี้ จังหวัดได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมชมงานแต่งกายผ้าไทย ร่วมสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป  ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดรถล้อยางไว้บริการฟรี  เพื่อชมบรรยากาศการประดับไฟที่สวยสดงดงามอีกด้วย