อธิบดีกรมศิลปากร ปล่อยขบวนรถเคลื่อนเสาพระเมรุมาศ โครงสร้างเหล็กประกอบพระเมรุมาศ

อธิบดีกรมศิลปากร ปล่อยขบวนรถเคลื่อนเสาพระเมรุมาศ โครงสร้างเหล็กประกอบพระเมรุมาศ การจัดสร้างพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

           เวลา 16.49 น.  วันที่ 22 ก.พ. 60  นายอนันต์  ชูโชติ  อธิบดีกรมศิลปากร  พร้อมด้วย นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โปรยข้าวตรอกดอกไม้  มอบพวงมาลัย พระบรมสาทิสลักษณ์ ให้พนักงานขับรถเทลเลอร์ นำพวงมาลัยไปคล้องสักการะแม่ย่านางประจำรถเทลเลอร์  ร่วมเป็นประธานปล่อยขบวนรถเคลื่อนเสาพระเมรุมาศ และโครงสร้างเหล็กประกอบพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันแรก โดยมีนายประทีป เพ็งตะโก ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะได้ทำการตรวจเช็คชิ้นงานเสาพระเมรุมาศ และโครงสร้างรับเสาพระเมรุมาศ  บริเวณโดยรอบรถเทลเลอร์  เพื่อเตรียมความพร้อม ตรวจเช็คความมั่นคงของการบรรทุก  เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และป้องกันความเสียหาย ขณะเคลื่อนย้ายชิ้นงาน  บริเวณบริษัท เอส ที เฟรม แอนด์ ทรัส จำกัด  ต.โพธิ์สามต้น  อ.บางปะหัน  จ.พระนครศรีอยุธยา

           สำหรับชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กดังกล่าว  จะนำไปประกอบพระเมรุมาศ ให้แล้วเสร็จก่อนพิธียกเสาเอกในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจะทยอยส่งจนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์  โดยมี บริษัท เอส ที เฟรม แอนด์ ทรัส จำกัด เป็นผู้รับจ้าง จะแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนมีนาคม รวมกว่า 4 หมื่นชิ้น น้ำหนักประมาณ 800 ตัน  ซึ่งการขนส่งโครงสร้างเหล็กในวันนี้ใช้รถเทลเลอร์ จำนวน 5 คัน บรรทุกชิ้นส่วนฐานราก จำนวน 4 ชิ้น และเสาเอกอีก 1 ต้น  ทั้งนี้ ได้ใช้เส้นทางสาย 347 บางปะหัน – ปทุมธานี  ทางด่วนบางปะอิน  ลงสะพานยมราช วิ่งไปตามถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในเวลา 23.00 น.

           ด้านนายประมุข บรรเจิดสกุล กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เอส ที เฟรม แอนด์ ทรัส จำกัด  กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจอีกครั้งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการประกอบชิ้นส่วนโครงสร้างพระเมรุมาศ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ก่อสร้างชิ้นส่วนสร้างพระเมรุมาศแล้วถึง 5 องค์ และจากนี้ไปจะขอรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สืบไป