ธ.ก.ส.มอบโชคลูกค้าเกษตรยั่งยืนสาววิไล  ผักไห่อยุธยา  ผู้โชคดีรับรางวัล  10 ล้านบาท

คนกรุงเก่า สาววิไลชาวผักไห่ โชคดีถูกสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. เป็นรางวัลลุ้นครั้งสุดท้ายก่อนครบกำหนดการเวนคืน 36 เดือนส่งท้ายปีเก่า จำนวนเงิน 10 ล้านบาท

       นางณัชฐิตาพร ขำจริง ผู้จัดการ ธกส.สาขาผักไห่  เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ธกส.จัดให้มีการออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธกส.ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือนตลอดมา  ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ณ.กองสลากสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี  ปรากฏว่ามีลูกค้าของ ธกส.สาขาผักไห่  โชคดีถูกรางวัลที่ 1 สลากออมทรัพย์ ธกส.รุ่นเกษตรยั่งยืน ชุดที่ 3 จำนวนเงินรางวัล 10,000,000 บาท ผู้ถูกรางวัลเป็นลูกค้าฝากเงินสลากไว้กับ ธกส.สาขาผักไห่  หน่วยละ 100 บาท  หมายเลข N73916983  ถึงหมายเลข N7 3926982  รวมจำนวน 10,000 หน่วย ส่วนเลขที่ถูกตรงหมวด ตรงเลขได้แก่  N7  3921302   ต้องขอแสดงความยินดีด้วยไว้ ณ โอกาสนี้

       สำหรับลูกค้าผู้โชคดีได้รับเงินรางวัล 10 ล้านบาท เป็นสุภาพสตรี เป็นอดีตข้าราชการครูเกษียณรับเงินบำนาญ ก่อนเกษียณอายุราชการครู สอนอยู่โรงเรียนโพธิ์ผักไห่ อ.ผักไห่ ขณะนี้อายุ 70 ปี สุขภาพแข็งแรง พักอาศัยอยู่ที่บ้านยกพื้นสูง ของตนเอง  ริมแม่น้ำน้อย กับน้องสาว และญาติๆ  ใกล้กับที่ว่าการอำเภอผักไห่  ลูกค้าเล่าให้ฟังว่า  “เป็นคนชอบทำบุญไปตามโอกาสอันสมควร  เคยไปร่วมทำบุญไหว้หลวงปู่สรวงที่ วัดไพรพัฒนา  จ.ศรีสะเกษ ”  มีวิถีการดำเนินชีวิตปกติ เรียบง่าย  ตื่นแต่เช้าเพื่อรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกไว้บริเวณรอบบ้าน และเป็นการออกกำลังไปด้วยแต่หากรดน้ำต้นไม้ตอนสาย  แดดจะร้อนเราต้องหาทางหลีกเลี่ยง สิ่งที่จะกระทบกับเราในทางลบไว้ก่อน  ลูกค้าบอกอย่างนั้น

       ก่อนได้รับความโชคดี มีความรู้สึก หรือลางสังหรณ์อะไรหรือไม่..?  ลูกค้าแจ้งว่าไม่ได้มีอะไรมาบอกเหตุ แต่ดำรงชีวิตอยู่แบบสบายใจ ไม่ได้ทุกข์ ร้อน หรือหางตากระตุกแต่ประการใด  มีความเป็นปกติ เหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา แต่ได้ดูกำหนดการสลากครบกำหนด 3 ปี  และจะถอนคืนได้ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562  ในตอนเช้าวันที่ 17 จึงได้ถือสมุดเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชคของ ธกส. เล่มสีแดง  และเดินจากบ้านไปที่ ธกส.สาขาผักไห่ เพื่อปรับสมุด ปรากฏว่าพนักงานชื่อเล่นว่า  น้องแป้ง เห็นรายการในสมุดแล้วตกใจมือสั่นด้วย  แล้วไปถามกับพนักงานอีกคนที่เป็นหัวหน้า  และแสดงความยินดีกับลูกค้าว่าโชคดีได้รับเงินเพิ่มในบัญชี 10 ล้านบาท พร้อมกับเงินสลากต้นทุนเดิมอีก  จำนวน  1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยของสลากอีก  จำนวน 12,500 บาท สลากที่ถูกรางวัลมีกำหนดการลุ้นรางวัลครั้งที่ 36 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของสลาก

        นายประจิน  จันทรพานิชย์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ธกส.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  กล่าวว่า  การถูกรางวัลที่ 1 ของ ธกส.หากเป็นสลากออมทรัพย์หมายเลขรับฝากหน่วยละ 100 บาท รางวัลที่ 1 มูลค่าเงินรางวัลละ 10 ล้านบาทถ้วน  หากเป็นสลากทวีสิน หมายเลขรับฝากจะเป็นหน่วยละ 500 บาท รางวัลที่ 1 เป็นเงินรางวัลละ 20 ล้านบาท มีกำหนดการลุ้นรางวัล 36 ครั้ง (3 ปี) ธนาคารกำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน ยกเว้นเดือนมกราคม กำหนดออกรางวัลเป็นวันที่ 17 มกราคม  สลากออมทรัพย์ เลขละ 100 บาท และสลากทวีสิน 500 หากถูกรางวัล  จะได้รับการยกเว้นเกี่ยวกับภาษีทุกรางวัล  ลูกค้าจะได้รับเงินรางวัลเต็มจำนวน นอกจากนี้ยังมีรางวัลที่ 2,  3,  4,  5 และรางวัลเลขท้าย 4 ตัว  1 ครั้ง เลขท้าย 3 ตัว  2 ครั้ง เมื่อครบกำหนด 3 ปี จะได้รับเงินที่ฝากทั้งหมดคืน  พร้อมดอกเบี้ยอีกจำนวนหนึ่งซึ่งในแต่ละรุ่นที่ออกมาจะมีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน

        นายประจิน จันทรพานิชย์ ผอ.ธกส.อยุธยา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 นี้มีลูกค้าเงินฝากของ ธกส.สาขาพระนครศรีอยุธยา มีบ้านพักอยู่ในตลาดหัวรอ โชคดีถูกรางวัลที่ 1 รับเงิน 10 ล้านบาท 1 คน  และเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ก็มีลูกค้าฝากสลากที่ ธกส.สาขาย่อยโลตัส อยุธยา ก็ถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 10 ล้านบาทเช่นกัน

        “การถูกรางวัลนับว่าเป็นการโชคดีชั้นที่ 2 เป็นผลมาจากการรู้จักเก็บออมเงิน ชั้นที่ 1  ผสมกับบุญวาสนาที่ได้ทำไว้ด้วย จากการได้พูดคุยกับลูกค้าที่ถูกรางวัลที่ 1 หลายคนมีลักษณะใกล้เคียงกันคือ มีชีวิตความเป็นอยู่ตามปกติ เรียบง่าย ชีวิตประจำวันไม่ได้วุ่นวาย เป็นคนประหยัด ขยัน ชอบเก็บออม และส่วนมากทำบุญตามโอกาสทั่ว ๆ ไป หากเรารู้จักการเก็บออมที่เหมาะสมก็อาจจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าอย่างรวดเร็ว ก็เป็นได้ที่สำคัญหากเราไม่มีการเก็บออมไว้เลย  โอกาสก็จะไม่มีมาหาเรา โดยเฉพาะการซื้อสลากกินแบ่งล็อตเตอรี่หรือหวยใต้ดิน  ก็จะทำให้เงินสูญเปล่าไปทุกงวด  หรือทุก 15 วัน หากเราเก็บเงินก้อนนี้ไว้สักระยะหนึ่ง เมื่อ ธกส.ออกสลากชุดใหม่เราก็รวมเงินไปฝากสลากกับ ธกส. แล้วร่วมลุ้นไปเรื่อยๆ  ได้รางวัลก็ดี หากไม่ได้รับรางวัลเราก็มีเงินเก็บออมไว้สำหรับอนาคตและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้” ท่าน ผอ.ธกส.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  กล่าวปิดท้าย