พ่อเมืองกรุงเก่า ลงพื้นที่บางบาล ลุยสำรวจตรวจสอบป่าผืนสุดท้าย ทึ่งฝูงนกเหยี่ยวรุ้งบินโฉบหากิน

กรณีสื่อได้นำเสนอเรื่องราวของป่าผืนสุดท้ายที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ 18 ไร่ และเป็นพื้นที่ในความดูแลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำให้ประชาชนในพื้นที่และทั่วไป เล็งเห็นความสำคัญไปสำรวจความอุดมสมบูรณ์  โดยพบว่ามีซากของโบราณสถานคล้ายกับวิหาร หรือกุฎิหลังเล็กๆ ที่ก่ออิฐสมัยกรุงศรีอยุธยาถูกต้นไม้ปกคลุมอยู่ อีกทั้งยังพบว่ามีพรรณไม้นานาชนิดขึ้นอยู่ทั่วไป เทศบาลตำบลบางบาล เสนอผลักดันให้เป็นศูนย์เรียนรู้สวนพฤษศาสตร์  ซึ่งอยู่ที่ หมู่ 1 ต.บางชะนี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา

     เวลา 13.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 62 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  พร้อมด้วย นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางรัตนา หวังเทพอนุเคราะห์ ส.จ.พระนครศรีอยุธยา  นายธวัช  สุวรรณ  นายอำเภอบางบาล  นายชูเกียรติ บุญมี  นายกเทศมนตรี  นายสมศักดิ์ สันธินาค เครือข่าย ทสม.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย นายมงคล แสงจักร ตัวแทนเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา นายวิชิต  อุตสาหะประดิษฐ์  กำนันตำบลบางชะนี  นายสมคิด  ประสงค์ศรี  ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมคณะเดินทางไปยังบริเวณผืนป่า โดยเดินสำรวจผืนป่า ซึ่งแบ่งเป็นสองฝั่งมีสะพานวัดจุฬามณีกั้นกลาง  ซึ่งพบว่าป่ามีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก ที่สำคัญผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ให้ความสนใจกับต้นยางขนาดความสูง 22 เมตร อายุกว่าร้อยปีมีอยู่จำนวนมาก โดยพบว่ามีการขุดลำต้นเพื่อเผาเอาน้ำยาง ซึ่งได้ถูกทางเทศบาลฯ สั่งระงับการเผาดังกล่าวไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งจุดที่ได้รับความสนใจจากคณะสำรวจอย่างมาก คือ บริเวณซากโบราณสถาน ที่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าเป็นสถานที่ใช้ปฏิบัติกิจใดในทางศาสนายุคนั้น

      โดยระหว่างการเดินสำรวจยังพบว่ามีนกเหยี่ยวจำนวน 4-6 ตัวเป็นเหยี่ยวดำ และเหยี่ยวรุ้ง หัวขาว บินโฉบปลาในแม่น้ำ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคน ซึ่งนกเหยี่ยวดังกล่าวนับเป็นสัตว์ที่หายาก และจะบินมาในช่วงเดือนธันวาคมเท่านั้น เป็นที่ประทับใจของผู้พบเห็น และบรรดานักส่องนกมาชมกัน ซึ่งใช้เวลาการเดินรอบป่าดังกล่าวเกือบ 1 ช.ม.

      นายภานุ แย้มศรี  กล่าวภายหลังการเดินสำรวจว่า  นับเป็นความประทับใจอย่างมากที่พบว่าป่าแห่งนี้ยังมีความสมบูรณ์อย่างมาก ซึ่งทางเทศบาลตำบลบางบาลได้เสนอกับทางจังหวัดฯในการดำเนินการโครงการสวนพฤกษศาสตร์ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนา ก่อนหน้านี้มีผู้เช่าที่ดิน ประมาณ 5-6 รายและทราบว่าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการสวนพฤกษศาสตร์ มีอยู่อีกรายหรือสองรายที่ต้องมีการเจรจาทำความเข้าใจในเรื่องของโครงการดังกล่าว ซึ่งหากดำเนินการตรามขั้นตอน ก็จะทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

     ด้านนายชูเกียรติ บุญมี  กล่าวว่า  ชาวบ้านรู้สึกดีใจอย่างมากที่ป่าแห่งนี้จะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ และเป็นที่สนใจของคนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นหลังรักสิ่งแวดล้อม ตนเองต้องขอบคุณ สื่อแขนงต่างๆ ที่นำเสนอเรื่องนี้จนเกิดกระแสตื่นตัวในเรื่องของการรักหวงแหนป่า ซึ่งตนจะได้ดำเนินการเพื่อให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่สมบูรณ์ต่อไป