กัลฟ์ หนุนเครื่องมือแพทย์แล้ว  34 ล้าน เดินหน้าช่วยสังคมต่อเนื่อง มอบอาหารกว่าแสนกล่องให้ชุมชนบรรเทาผลกระทบจากภัยโควิด-19

จากความสำเร็จและเสียงตอบรับที่ดีของชาวบ้านในโครงการนำร่องมอบข้าวกล่องแก่ชุมชนเป็นเวลา 7 วัน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF จึงสานต่อโครงการมอบข้าวกล่องเพิ่มเป็นจำนวน 2,500 กล่องต่อวัน (จากเดิม 2,000 กล่อง) สู่ชุมชนรอบกรุงเทพมหานคร ตั้งเป้าไว้ที่ 120,000 กล่อง ซึ่งทางผู้นำชุมชนจะรับข้าวกล่องไปกระจายต่อให้แก่คนในชุมชน เน้นผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เพื่อช่วยเหลือและเป็นการส่งพลังสู่ชุมชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โครงการนี้มุ่งดำเนินการให้ครอบคลุมระยะเวลา 50 วัน โดยทางโครงการจะปรับเปลี่ยนและขยายพื้นที่ชุมชนที่ได้รับข้าวกล่องเป็นรายอาทิตย์เพื่อให้ทั่วถึงทุกชุมชนใน 50 เขต  กรุงเทพมหานคร

           หลังจากที่ทางกัลฟ์ได้ทดลองแจกข้าวกล่องในช่วง 7 วันที่ผ่านมา  ทางบริษัทฯ เห็นว่าข้าวกล่องนั้นไปถึงกลุ่มคนในชุมชนที่เดือดร้อนจริง ๆ หลายครอบครัวขาดรายได้ ส่วนภาระหนี้สินก็ยังมีอยู่ ดังนั้นข้าวกล่อง 1 กล่อง สำหรับคนที่ลำบากนั้นถือว่ามีค่ามาก เพราะทำให้มีพลังสู้ต่อได้อีกทั้งวัน นอกจากนี้การจัดเตรียมข้าวกล่องให้กับคนในชุมชนยังถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อมอีกด้วย  เพราะการผลิตข้าวกล่องกว่า 2,000-3,0000 กล่องต่อวันนั้นต้องใช้วัตถุดิบเยอะ ส่งผลให้ทั้งพนักงานร้านอาหาร เกษตรกร และผู้ขนส่งรายย่อยยังมีรายได้ เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้  นายสิตมน รัตนาวะดี ในนามตัวแทนของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

       นายวิเชียร แสงพลอย ประธานชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กล่าวว่า จากผลกระทบของโรคโควิด-19 ส่งผลให้คนในชุมชนส่วนใหญ่ต้องตกงาน  โดยทางเรามีจัดหากิจกรรมให้คนในชุมชนทำ เช่น ทำหน้ากากอนามัย ทำเจลล้างมือ เพื่อแจกจ่ายในชุมชน และเป็นการคลายเครียดอีกทางหนึ่ง โดยทางชุมชนของเราอยากขอขอบคุณบริษัทกัลฟ์ที่เห็นใจคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และจัดทำโครงการมอบข้าวกล่องให้กับชุมชน ช่วยเหลือคนที่ไม่สามารถหาอาหารรับประทานเองได้ คนที่ตกงานได้มีอาหารประทังความหิว และช่วยให้คนในชุมชนประหยัดเงินได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยทางตัวแทนชุมชนจะสำรวจคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ บุคคลที่ขาดแคลนอื่น ๆ และแจกจ่ายตามความเหมาะสม

          ด้านน้องมัดไหม ด.ญ. ณัฐณิชา ใจสำราญ ตัวแทนวัย 9 ปี จากชุมชนบ้านแบบ เขตสาทร กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า หนูอยู่ที่ชุมชนบ้านแบบ เขตสาทรค่ะ บ้านของหนูอาศัยอยู่ด้วยกัน 8 คน ประกอบด้วย พ่อ  แม่  ย่า  ลุง  ป้า  พี่ชาย  น้องชาย และหนูค่ะ ในช่วงนี้หนูช่วยป้าเพ็ญ (ประธานชุมชนบ้านแบบ) ทำหน้ากากผ้า เก็บขยะ การที่กัลฟ์นำข้าวกล่องมาแจกนั้นดีมากสำหรับคุณยายของหนูที่เดินไม่ได้  ยิ่งในช่วงที่มีโรคระบาด ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดไว หนูจึงต้องทำกับข้าวกินเอง เช่น ทอดไข่เจียวค่ะ เมื่อหนูโตขึ้น หนูอยากเป็นหมอเพื่อที่จะได้รักษาคนป่วย และก็อยากทำงานที่ได้ทำความดี ช่วยเหลือสังคม  “พี่ ๆ คะ ทำต่อไปให้ดีที่สุดนะคะ” น้องมัดไหมกล่าวทิ้งท้ายเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้บริหารและพนักงานกัลฟ์ทุกคน