เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาในกระชังกรุงเก่า ยื่นหนังสือชะลอบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือในน่านน้ำไทย
1,274 อ่าน
เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาในกระชังกรุงเก่า ยื่นหนังสือชะลอบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือในน่านน้ำไทย
เมืองกรุงเก่า เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง ขอขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือในน่านน้ำไทย หลังกรมเจ้าท่าประกาศให้ขึ้นทะเบียนสิ่งล่วงล้ำแหล่งน้ำ
เวลา 09.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. 60 นายสุภากร เอกตระกูล ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังอยุธยา พร้อมด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง กว่า 20 ราย ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอขยายระยะเวลา รวมถึงให้พิจารณาทบทวนการบังคับใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 หลังจากเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการบังคับใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยมี ว่าที่ร้อยตรี พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ รองผู้วาราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นางสุพรรณณี คุณพันธ์ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง กำลังได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือในน่านน้ำไทย โดยระบุให้ผู้ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งล่วงล้ำแหล่งน้ำกับกรมเจ้าท่า ให้ไปขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีในอัตราตารางเมตรละ 50 บาท และหลังจากพ้นกำหนดจะต้องถูกปรับตารางเมตรละ 500 บาท หรือได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว แต่มีการก่อสร้างสิ่งลวงล้ำแหล่งน้ำ ผิดไปจากที่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกหรือปรับ ซึ่งขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังอยู่เกือบ 200 ราย มีพื้นที่กระชังปลาทั้งสิ้นเกือบ 23,000 ตารางเมตร ทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านบาท และหากต้องถูกปรับจะต้องเสียค่าปรับสูงเป็นเงินสูงถึงเกือบ 23 ล้านบาทซึ่งถือเป็นภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และเป็นเกษตรกรรายย่อย มีฐานะยากจน ดังนั้น จึงขอขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายการเดินเรือในน่านน้ำไทยต่อไปอีก
ด้าน นายสุภากร เอกตระกูล ตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงต้องมาขอรับความช่วยเหลือจากทางจังหวัดฯ ส่งต่อไปยังรัฐบาล เบื้องต้น ขอขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าว จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 22 มิถุนายน นี้ ออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้เกษตรกรที่ยังไม่ทราบกฎหมายฉบับนี้ได้มีเวลาปรับตัวและทำความเข้าใจก่อน รวมทั้งขอให้ปรับลดค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสม เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยและมีฐานะยากจน และหากมีการบังคับใช้แล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรจริง ก็ขอให้มีการพิจารณาทบทวนการใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ใหม่อีกครั้ง
หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆแล้ว ว่าที่ร้อยตรี พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ได้รับมอบหนังสือร้องเรียน พร้อมทั้งรับปากจะดำเนินการส่งหนังสือไปให้กับรัฐบาลตามความประสงค์ โดยผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ คาดว่า ก่อนถึงวันที่ 20 มิถุนายน นี้ จะทราบผลการพิจารณาจากรัฐบาลอีกครั้ง
ข่าวล่าสุด
- วันที่[2024-04-17 ] สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ชี้แจงการจัดงาน “มหกรรมยางพาราและเกษตรแฟร์ EEC ไทย-จีน 2024” ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ....
- วันที่[2024-03-25 ] อยุธยาซิตี้พาร์ค ทุ่ม 500 ล้าน Transform ปรับโฉมใหม่ จัดเต็มอีเว้นท์คืนกำไรให้คนอยุธยา....
- วันที่[2024-03-16 ] คณะผู้บริหาร “ไพรม์มัส กรุ๊ป” เข้าพบนายกเมืองพัทยา รับฟังข้อมูลยานยนต์ในเมืองท่องเที่ยว....
- วันที่[2024-03-13 ] ชลบุรี นงนุชพัทยา - เริ่มแล้ว! งาน AUTOMATION EXPO 2024 - EEC Edition พัฒนา Smart Manufacturing เริ่มที่คน ต่อยอดด้วยเทคโนโลยี....
- วันที่[2024-02-23 ] อยุธยาซิตี้พาร์ค สนับสนุนนักศึกษา จุดประกายการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ต่อยอดธุรกิจ....
- วันที่[2024-02-06 ] AIS 3BB FIBRE3 เยือนอยุธยานกรุงเก่าเมืองมรดกโลก เดินหน้าเสริมศักยภาพเน็ตบ้าน ยกระดับเติมเต็มการท่องเที่ยว ผลักดันเศรษฐกิจอุตสาหกรรมชั้นนำของภาคกลาง เพื่อการใช้ชีวิตที่ดียิ่งกว่าของคนไทย....
- วันที่[2024-01-30 ] GULF คว้ารางวัล บริษัทที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค 3 ปีซ้อน ในงาน ASEAN and Thailand’s Top Corporate Brands 2023....
- วันที่[2024-01-29 ] บริษัท ศิวิไล เปิดตัวงาน “1-STAR Golden Night 2024” การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของคู่ค้าทางธุรกิจ Civilimall Application....
- วันที่[2024-01-28 ] พาณิชย์จังหวัดตราด กลุ่มพาณิชย์ภาคตะวันออก ยกทัพสินค้าเปิดตลาดอยุธยา “มหกรรมการค้าชายแดนภาคตะวันออกสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ปี 2567\"....
- วันที่[2024-01-17 ] อยุธยา กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ประชุมหารือการขับเคลื่อนการยกระดับเมืองและการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน....